ขอทักท้วง>>>คำสั่งที่ผิดประเภท>ผิดหน้าที่และไม่มีอำนาจ !!!
-• คนมีอำนาจสามารถใช้ทุกสิ่งในทางที่ไม่ดีได้ !!!
เพื่อประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ฉันใด
แต่หากทำทุกสิ่งในทางที่ดี ก็ประสบความสำเร็จได้อย่างสง่างามและได้รับการยอมรับก็ฉันนั้น •-
ผมขอทักท้วงต่อกรณีคดีพระธัมมชโย ด้วยความเป็นกังวลอย่างยิ่ง ต่อกรณี
1) การดำเนินคดีกับประชาชนที่เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกายว่าขัดขวางการจับกุม
2) การใช้กำลังทหารเข้ากระชับวงล้อมเพื่อเอาตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดี
กรณีแรก ดำเนินคดีกับประชาชนที่เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ตาม ป.อ.มาตรา 189 "ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
แยกการกระทำที่เป็นองค์ประกอบความผิดได้ 2 ลักษณะ คือ
1) ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นแก่บุคคลนั้น กรณีนี้เป็นความผิดเฉพาะการให้พำนักหรือซ่อนเร้นเท่านั้น ไม่รวมการกระทำด้วยประการใดๆ
2) ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด "เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม"
ทั้งสองลักษณะต้องตีความพฤติการณ์การกระทำด้วยความระมัดระวัง เพราะมีองค์ประกอบภายนอกที่แตกต่างกันดังที่กล่าวข้างต้น เช่น การเป็นผู้กระทำความผิด หรือการเป็นผู้ต้องหา และยังต้องคำนึงว่า ผู้อื่นนั้น ตกเป็นผู้อยู่ในสถานะใดของการเข้าจับกุมหรือต้องโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ กล่าวคือ
• พระธัมมชโย เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ยังไม่แจ้งข้อหาจึงไม่ใช่"เป็นผู้ต้องหา" เมื่อยังไม่แจ้งข้อหา ก็ยังไม่ได้สอบสวน
แม้จะอ้างการสอบสวนผู้ต้องหาบางคน ซึ่งการสอบสวนนั้นอาจยังไม่สิ้นกระแสความว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คน ได้ร่วมมือกันหรือสมคบกันอย่างไร มีข้อเท็จจริงปรากฎในทางสอบสวนครบถ้วนครบองค์ประกอบความผิดนั้น โดยปราศจากข้อสงสัยเป็นที่ยุติแล้วหรือไม่
มิใช่เพียงสอบสวนเท่าที่พอใจ แล้วผลักภาระให้ตกเป็นของจำเลย ไปพิสูจน์ตนเองในชั้นศาลดังที่ชอบทำกัน(ไม่ใช่ชอบธรรม) การออกหมายจับ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายค้น จึงมิใช่ออกหมายจับเพราะกระทำความผิดอาญาฐานใด (เทียบฎีกาที่ 207/2517) แม้จะมีหมายจับ ก็เป็นการจับเพื่อมาแจ้งข้อหา เพื่อมาทำการสอบสวนๆเสร็จแล้ว ก็อาจจะไม่เป็นความผิดก็ได้
ดังนั้น การที่ดีเอสไอจะแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่อ้างว่าขัดขวาง เป็นการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น จึงต้องพิจารณาเข้าองค์ประกอบของการกระทำทั้ง 2 ลักษณะหรือไม่ ที่สำคัญจะต้องไม่มั่ว
• การออกหมายค้น เป็นไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 69(4) ก็เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ กรณีพระธัมมชโยเป็นหมายจับเพื่อมาดำเนินคดี แต่ต้องมีการสอบสวนดังที่กล่าวมา พระธัมมชโยมิใช่เป็นผู้ที่ได้กระทำความผิดตามคำพิพากษาถึงที่สุด แล้วเป็นผู้หลบหนี หรือเป็นผู้ต้องหาที่มีการแจ้งข้อหาแล้วแต่อย่างใด การกระทำด้วยประการใดๆเพื่อมิให้ถูกจับกุม ต้องมีเจตนาพิเศษในบั้นปลายด้วยว่า "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" จึงจะเป็นความผิด
• ผู้ที่ช่วยเหลือผู้อื่น ต้องมีเจตนา โดยรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นประกอบของความผิด การจะกล่าวหาว่าผู้ที่ช่วยเหลือนั้นรู้ว่าผู้นั้นกระทำความผิด ต้องเป็นเรื่องเจตนาที่ไม่ได้สำคัญผิดในข้อเท็จจริงด้วย หากสำคัญผิดว่าผู้อื่นนั้นไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแล้วจะฟังว่ามีเจตนาช่วยผู้กระทำความได้หรือไม่ มิเช่นนั้น การกระทำด้วยประการใดๆเพื่อมิให้ถูกจับกุมเพื่อไม่ให้ต้องโทษนั้น ก็ต้องมีเจตนาพิเศษที่เกิดมาจากการมีเจตนากระทำความผิดด้วย
• การแจ้งความที่กล่าวหาพวกเขากระทำความผิดตามมาตรา 189 จึงต้องชัดแจ้งทั้งพฤติการณ์อันเป็นข้อเท็จจริง และปรับเข้าข้อกฎหมายที่ถูกต้องด้วย มิเช่นนั้นอาจถูกแจ้งความกลับได้
#ผมเห็นว่า_ไม่ผิด_189
กรณีที่สอง การใช้กำลังทหาร เข้ากระชับวงล้อมเพื่อเอาตัวพระธัมมชโย เป็นการใช้ผิดประเภท ผิดหน้าที่และไม่มีอำนาจ เนื่องจากที่จะสั่งการให้ใช้กำลังทหารทหารมิใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 เพราะมิใช่ความผิดที่กำหนดไว้ในคำสั่งดังกล่าว
นอกจากนี้ ทหารมิได้มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชา เนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่สั่งไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะมาจับกุม หรือทำการค้นตามหมายค้น และมิใช่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่จะช่วยจับกุมตามกฎหมาย สรุปคือ ไม่ใช่หน้าที่ของทหารไม่ว่าชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตร
การจะนำทหารออกมา จึงไม่ใช่การใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2559 มีทางเดียวคือ ใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามรัฐธรรมนูญ(ชั่วคราว)พ.ศ.2557 มาตรา 44 เท่านั้น แต่ก็มีคำพูดของหัวหน้า คสช. ต่อสาธารณะแล้วว่าจะไม่ใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 เพราะมีช่องกฎหมายให้ดำเนินการได้ จะทำหรือไม่เท่านั้นเอง แต่หากตัดสินใจใช้อำนาจนี้ ก็ย่อมเป็นการตอกย้ำตามที่คณะศิษย์ฯแถลงว่า จะรอให้บ้านเมืองกลับสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั่นเอง
ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงคราม ศาสนา และการเข่นฆ่าภายในประเทศ มีต้นตอมาจากบรรดาผู้ปกครองที่ฉ้อฉล ใช้อำนาจตามอำเภอใจ หรือ นักวิชาการผู้นับถือศาสนาที่อคติ คำสอนของศาสนาไม่ได้สอนให้มนุษย์กดขี่ รังแก หรือ เข่นฆ่าผู้ใด ดังนั้น การใช้กำลังทหารในกรณีเช่นนี้จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง
#กล่าวโดยสรุป เมื่อมีข้อทักท้วงแล้ว ก็ต้องมีข้อเสนอแนะด้วย นั่นคือ ย้อนกลับไปใช้อำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 134 ตามวิธีการปกติ โดยไม่ต้องไปขอออกหมายค้นอีก เพราะอะไร ผู้มีอำนาจคงคาดหมายได้ เพียงแต่หันมาใช้การเข้าไปวัดธรรมกาย เพื่อพบพระธัมมชโย แล้วแจ้งข้อหาแก่ท่าน สอบปากคำพิมพ์มือที่นั่น หากมีข้อเท็จจริงที่ต้องเพิ่มเติม ก็สอบสวนให้ตามสิทธิของผู้ต้องหา ในระหว่างที่พนักงานอัยการดูสำนวนสอบสวนก็สามารถพิจารณาและอาจสั่งทำการสอบสวนได้อีก ไม่จำต้องเร่งรัดให้เกิดข้อเปรียบเทียบเรื่องมาตรฐานอย่างที่มีคนพูดกัน
การใช้อำนาจที่อาจสร้างรอยร้าว สร้างประเด็นความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไม่รู้จบ แล้วความสงบสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างไร.
ข้อมูลจาก เพจ คุณทนายวิญญัติ ชาติมนตรี
เพื่อประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่พวกเขาวางไว้ฉันใด
แต่หากทำทุกสิ่งในทางที่ดี ก็ประสบความสำเร็จได้อย่างสง่างามและได้รับการยอมรับก็ฉันนั้น •-
ผมขอทักท้วงต่อกรณีคดีพระธัมมชโย ด้วยความเป็นกังวลอย่างยิ่ง ต่อกรณี
1) การดำเนินคดีกับประชาชนที่เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกายว่าขัดขวางการจับกุม
2) การใช้กำลังทหารเข้ากระชับวงล้อมเพื่อเอาตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดี
กรณีแรก ดำเนินคดีกับประชาชนที่เป็นลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย ตาม ป.อ.มาตรา 189 "ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกิน สี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
แยกการกระทำที่เป็นองค์ประกอบความผิดได้ 2 ลักษณะ คือ
1) ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นแก่บุคคลนั้น กรณีนี้เป็นความผิดเฉพาะการให้พำนักหรือซ่อนเร้นเท่านั้น ไม่รวมการกระทำด้วยประการใดๆ
2) ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้อง หาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้นหรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด "เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม"
ทั้งสองลักษณะต้องตีความพฤติการณ์การกระทำด้วยความระมัดระวัง เพราะมีองค์ประกอบภายนอกที่แตกต่างกันดังที่กล่าวข้างต้น เช่น การเป็นผู้กระทำความผิด หรือการเป็นผู้ต้องหา และยังต้องคำนึงว่า ผู้อื่นนั้น ตกเป็นผู้อยู่ในสถานะใดของการเข้าจับกุมหรือต้องโทษตามคำพิพากษาหรือไม่ กล่าวคือ
• พระธัมมชโย เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิด ยังไม่แจ้งข้อหาจึงไม่ใช่"เป็นผู้ต้องหา" เมื่อยังไม่แจ้งข้อหา ก็ยังไม่ได้สอบสวน
แม้จะอ้างการสอบสวนผู้ต้องหาบางคน ซึ่งการสอบสวนนั้นอาจยังไม่สิ้นกระแสความว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 คน ได้ร่วมมือกันหรือสมคบกันอย่างไร มีข้อเท็จจริงปรากฎในทางสอบสวนครบถ้วนครบองค์ประกอบความผิดนั้น โดยปราศจากข้อสงสัยเป็นที่ยุติแล้วหรือไม่
มิใช่เพียงสอบสวนเท่าที่พอใจ แล้วผลักภาระให้ตกเป็นของจำเลย ไปพิสูจน์ตนเองในชั้นศาลดังที่ชอบทำกัน(ไม่ใช่ชอบธรรม) การออกหมายจับ ซึ่งนำไปสู่การออกหมายค้น จึงมิใช่ออกหมายจับเพราะกระทำความผิดอาญาฐานใด (เทียบฎีกาที่ 207/2517) แม้จะมีหมายจับ ก็เป็นการจับเพื่อมาแจ้งข้อหา เพื่อมาทำการสอบสวนๆเสร็จแล้ว ก็อาจจะไม่เป็นความผิดก็ได้
ดังนั้น การที่ดีเอสไอจะแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่อ้างว่าขัดขวาง เป็นการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น จึงต้องพิจารณาเข้าองค์ประกอบของการกระทำทั้ง 2 ลักษณะหรือไม่ ที่สำคัญจะต้องไม่มั่ว
• การออกหมายค้น เป็นไปตาม ป.วิ.อ.มาตรา 69(4) ก็เพื่อพบบุคคลซึ่งมีหมายให้จับ กรณีพระธัมมชโยเป็นหมายจับเพื่อมาดำเนินคดี แต่ต้องมีการสอบสวนดังที่กล่าวมา พระธัมมชโยมิใช่เป็นผู้ที่ได้กระทำความผิดตามคำพิพากษาถึงที่สุด แล้วเป็นผู้หลบหนี หรือเป็นผู้ต้องหาที่มีการแจ้งข้อหาแล้วแต่อย่างใด การกระทำด้วยประการใดๆเพื่อมิให้ถูกจับกุม ต้องมีเจตนาพิเศษในบั้นปลายด้วยว่า "เพื่อไม่ให้ต้องโทษ" จึงจะเป็นความผิด
• ผู้ที่ช่วยเหลือผู้อื่น ต้องมีเจตนา โดยรู้ข้อเท็จจริงอันเป็นประกอบของความผิด การจะกล่าวหาว่าผู้ที่ช่วยเหลือนั้นรู้ว่าผู้นั้นกระทำความผิด ต้องเป็นเรื่องเจตนาที่ไม่ได้สำคัญผิดในข้อเท็จจริงด้วย หากสำคัญผิดว่าผู้อื่นนั้นไม่ได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาแล้วจะฟังว่ามีเจตนาช่วยผู้กระทำความได้หรือไม่ มิเช่นนั้น การกระทำด้วยประการใดๆเพื่อมิให้ถูกจับกุมเพื่อไม่ให้ต้องโทษนั้น ก็ต้องมีเจตนาพิเศษที่เกิดมาจากการมีเจตนากระทำความผิดด้วย
• การแจ้งความที่กล่าวหาพวกเขากระทำความผิดตามมาตรา 189 จึงต้องชัดแจ้งทั้งพฤติการณ์อันเป็นข้อเท็จจริง และปรับเข้าข้อกฎหมายที่ถูกต้องด้วย มิเช่นนั้นอาจถูกแจ้งความกลับได้
#ผมเห็นว่า_ไม่ผิด_189
กรณีที่สอง การใช้กำลังทหาร เข้ากระชับวงล้อมเพื่อเอาตัวพระธัมมชโย เป็นการใช้ผิดประเภท ผิดหน้าที่และไม่มีอำนาจ เนื่องจากที่จะสั่งการให้ใช้กำลังทหารทหารมิใช่เจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานตามคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 3/2558 เพราะมิใช่ความผิดที่กำหนดไว้ในคำสั่งดังกล่าว
นอกจากนี้ ทหารมิได้มีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้บังคับบัญชา เนื่องจากผู้บังคับบัญชาที่สั่งไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะมาจับกุม หรือทำการค้นตามหมายค้น และมิใช่ผู้ช่วยเจ้าพนักงานที่จะช่วยจับกุมตามกฎหมาย สรุปคือ ไม่ใช่หน้าที่ของทหารไม่ว่าชั้นประทวนหรือชั้นสัญญาบัตร
การจะนำทหารออกมา จึงไม่ใช่การใช้อำนาจตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 3/2558 และคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2559 มีทางเดียวคือ ใช้อำนาจของหัวหน้า คสช. ตามรัฐธรรมนูญ(ชั่วคราว)พ.ศ.2557 มาตรา 44 เท่านั้น แต่ก็มีคำพูดของหัวหน้า คสช. ต่อสาธารณะแล้วว่าจะไม่ใช้อำนาจ ตามมาตรา 44 เพราะมีช่องกฎหมายให้ดำเนินการได้ จะทำหรือไม่เท่านั้นเอง แต่หากตัดสินใจใช้อำนาจนี้ ก็ย่อมเป็นการตอกย้ำตามที่คณะศิษย์ฯแถลงว่า จะรอให้บ้านเมืองกลับสู่การปกครองระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์นั่นเอง
ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงคราม ศาสนา และการเข่นฆ่าภายในประเทศ มีต้นตอมาจากบรรดาผู้ปกครองที่ฉ้อฉล ใช้อำนาจตามอำเภอใจ หรือ นักวิชาการผู้นับถือศาสนาที่อคติ คำสอนของศาสนาไม่ได้สอนให้มนุษย์กดขี่ รังแก หรือ เข่นฆ่าผู้ใด ดังนั้น การใช้กำลังทหารในกรณีเช่นนี้จึงไม่สมควรอย่างยิ่ง
#กล่าวโดยสรุป เมื่อมีข้อทักท้วงแล้ว ก็ต้องมีข้อเสนอแนะด้วย นั่นคือ ย้อนกลับไปใช้อำนาจตาม ป.วิ.อ. มาตรา 134 ตามวิธีการปกติ โดยไม่ต้องไปขอออกหมายค้นอีก เพราะอะไร ผู้มีอำนาจคงคาดหมายได้ เพียงแต่หันมาใช้การเข้าไปวัดธรรมกาย เพื่อพบพระธัมมชโย แล้วแจ้งข้อหาแก่ท่าน สอบปากคำพิมพ์มือที่นั่น หากมีข้อเท็จจริงที่ต้องเพิ่มเติม ก็สอบสวนให้ตามสิทธิของผู้ต้องหา ในระหว่างที่พนักงานอัยการดูสำนวนสอบสวนก็สามารถพิจารณาและอาจสั่งทำการสอบสวนได้อีก ไม่จำต้องเร่งรัดให้เกิดข้อเปรียบเทียบเรื่องมาตรฐานอย่างที่มีคนพูดกัน
การใช้อำนาจที่อาจสร้างรอยร้าว สร้างประเด็นความขัดแย้งเพิ่มขึ้นไม่รู้จบ แล้วความสงบสุขจะเกิดขึ้นได้อย่างไร.
ข้อมูลจาก เพจ คุณทนายวิญญัติ ชาติมนตรี
ขอทักท้วง>>>คำสั่งที่ผิดประเภท>ผิดหน้าที่และไม่มีอำนาจ !!!
Reviewed by Unknown
on
08:31
Rating:
ท่านที่ชอบเหตุผลควรอ่านค่ะ
ตอบลบเป็นเหตุเป็นผลมากเลยค่ะ
จริงค่ะ
ลบวัดและพระก้ไม่ผิด ยังดึงดันจะดำเนินคดีที่ไม่มีอยู่จริง ถ้าไม่มีความสื่อสัตย์ในวิขชาชีพก็ต้องหาคนอื่นมาแทน
ลบกรรมใดใครก่อ กรรมนั้นสนอง มิได้ต้องการให้ท่าน(ผู้ก่อการชั่ว)ต้องระทมทุกข์ เพียงเพื่อให้ท่านได้สติ มีสำนึก มีเมตตาธรรมต่อผู้มีศีล มิใช่กลัวผู้มีอำนาจ(ชั่ว)ในมือเท่านั้น. อย่าถลำลึกไปมากกว่านี้อีกเลยครับ
ตอบลบสุดยอดข้อความนี้
ลบคนที่มีความยุติธรรมในหัวใจ มีเหตุมีผล อ่านแล้วจะเข้าใจค่ะ...วอน DSIโปรดอย่าลุแก่ ำนาจ สร้างเวรกรรม และรอยร้าวในหัวใจชาวพุทธ และความแตกแยกในสังคมไทย ด้วยการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเลยค่ะ
ตอบลบคนที่มีความยุติธรรมในหัวใจ มีเหตุมีผล อ่านแล้วจะเข้าใจค่ะ...วอน DSIโปรดอย่าลุแก่ ำนาจ สร้างเวรกรรม และรอยร้าวในหัวใจชาวพุทธ และความแตกแยกในสังคมไทย ด้วยการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเลยค่ะ
ตอบลบผู้มีอำนาจถ้ารู้จักใช้อำนาจในทางที่ถูกศีลธรรมก็จะเกิดความสงบสุขในสังคมบ้านเมือง
ตอบลบถ้าใช้อำนาจในทางที่ผิดสังคมบ้านเมืองก็วุ่นวายไม่รู้จบ
ท่านที่ยัดข้อหาให้หลวงพ่อนั้น ท่านย่อมรู้ด้วยตัวท่านเองว่าทำเพื่ออะใร ใช่มั้ย
ตอบลบท่านที่ยัดข้อหาให้หลวงพ่อนั้น ท่านย่อมรู้ด้วยตัวท่านเองว่าทำเพื่ออะใร ใช่มั้ย
ตอบลบเสนอทางออกอีกทาง ผู้มีอำนาจทั้งหลาย กลับบ้านแล้วกินข้าว อาบน้ำ นอน แล้วก็ไม่ต้องตื่นมาอีก บ้านเมืองนี้จักสงบโดยสมบูรณ์
ตอบลบเสนอแนะนำได้แรงนิ
ลบท่านที่มีใจเป็นกลางย่อมเข้าใจได้ถ่องแท้ ความจริงไม่ได้ยุ่งยากล้ำลึกเกินกว่าคนธรรมดาจะทำความเข้าใจ ผ่านมาเนิ่นนาน ความชัดเจนปรากฎทุกชั่วโมง ทุกวัน ว่าคดีนี้มีเบื้องหลัง มีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่คดีปกติทั่วๆไป
ลบโปรดพิจารณา และอย่าหลงเป็นเหยื่อทำร้ายพระผู้บริสุทธิ์ อันจะนำไปสู่การโค่นล้มพระพุทธศาสนาให้สูญสิ้นไปจากประเทศไทย
ท่านที่มีใจเป็นกลางย่อมเข้าใจได้ถ่องแท้ ความจริงไม่ได้ยุ่งยากล้ำลึกเกินกว่าคนธรรมดาจะทำความเข้าใจ ผ่านมาเนิ่นนาน ความชัดเจนปรากฎทุกชั่วโมง ทุกวัน ว่าคดีนี้มีเบื้องหลัง มีจุดมุ่งหมาย ไม่ใช่คดีปกติทั่วๆไป
ลบโปรดพิจารณา และอย่าหลงเป็นเหยื่อทำร้ายพระผู้บริสุทธิ์ อันจะนำไปสู่การโค่นล้มพระพุทธศาสนาให้สูญสิ้นไปจากประเทศไทย
คนที่มีความยุติธรรมในหัวใจ..#มีเหตุมีผล อ่านแล้วจะเข้าใจค่ะ...วอน DSIโปรดอย่ามุ่งแต่ใช้อำนาจ สร้างเวรกรรม และรอยร้าวในหัวใจชาวพุทธ และความแตกแยกในสังคมไทย หยุดการใช้กฎหมายที่ไม่เป็นธรรม ผู้มีอำนาจถ้ารู้จักใช้อำนาจในทางที่ถูกศีลธรรมก็จะเกิดความสงบสุขในสังคมบ้านเมือง
ตอบลบหลวงพ่อจะมอบตัวเมื่อ #เมืองไทยเป็นประขาธิปไตย ค่ะ
ตอบลบมีอำนาจอยู่ในมือใช้ในทางท่ีชอบธรรมก็เกิดผลพวงอันไพบูลย์แต่หากลุแก่อำนาจใช้ในทางไม่ชอบธรรมความหายนะก็เกิดแก่ผู้นั้น
ตอบลบกระจ่างและเคลียร์มากๆ
ตอบลบขอบคุณ
ตอบลบสำหรับข้อมูลดีๆๆค่ะ
ปปช. ส่วนมากต้องเร่งศึกษากฎหมายมากขึ้น
เพื่อ....การใช้ชีวิตในประจำวันอย่างปลอดภัย
ขอบคุณ คุณทนายที่นำข้อมูลความจริงมาเปิดเผย ครับ
ตอบลบสาธุ สาธุ สาธุ
ลบขอบคุณในข้อมูลนะคะ เพราะ2มาตรฐานเห็นอย่างเด่นชัด เลือกปฏิบัติแบบไม่น่าให้อภัยของหน่วยงานของรัฐ
ตอบลบขอบคุณในข้อมูลนะคะ เพราะ2มาตรฐานเห็นอย่างเด่นชัด เลือกปฏิบัติแบบไม่น่าให้อภัยของหน่วยงานของรัฐ
ตอบลบขอบคุณที่ให้ข้อมูลผู้มีอำนาจควรตระหนักเพื่อความสงบของบ้านเมือง
ตอบลบคนพาลมีอำนาจเลยใช้อำนาจไปในทางที่ผิดและทำผิดกฎหมายเสียเองแบบนี้ต้องให้ชาวโลกเขาประนาม
ตอบลบคนดีต้องช่วยกันทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบสุข
ไม่ให้คนพาลใช้อำนาจไปในทางที่ผิด
แจ้งให้สื่อทั่วโลกและUN เข้ามาช่วยกันลุมประนามการกระทำของคนพาล
คนดีมีศีลธรรมออกมาช่วยกันกำจัดคนพาลให้ออกไปจากสังคมเพื่อบ้านเมืองจะได้สงบสุข
การกระทำใดๆที่ใช้ช่องโหว่ของกฏหมาย( คือการพูดไม่หมดไม่ชัดเจนหรือต้องการชี้นำ)หรืออาศัยความไม่รู้ของตนมาใช้ หรือ พูดในที่สาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีความรู้ไม่มากพอ ทำให้เกิดกระแสได้ในมุมต่างๆทั้งดีและร้าย ก็ให้เกิดความร้าวฉานในสังคม ได้ ซึ่งถ้าพูดถึงความเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ก็ต้องพูดถึง ความมีวุฒิภาวะ เป็นหลัก คำถาม....ท่านรมต.ยุติธรรมพูดออกมานั้น ท่านคำนึงถึงความมีวุฒิภาวะหรือยังว่า ได้ถูกนำมาใช้ด้วยหรือไม่
ตอบลบการกระทำใดๆที่ใช้ช่องโหว่ของกฏหมาย( คือการพูดไม่หมดไม่ชัดเจนหรือต้องการชี้นำ)หรืออาศัยความไม่รู้ของตนมาใช้ หรือ พูดในที่สาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมีความรู้ไม่มากพอ ทำให้เกิดกระแสได้ในมุมต่างๆทั้งดีและร้าย ก็ให้เกิดความร้าวฉานในสังคม ได้ ซึ่งถ้าพูดถึงความเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ก็ต้องพูดถึง ความมีวุฒิภาวะ เป็นหลัก คำถาม....ท่านรมต.ยุติธรรมพูดออกมานั้น ท่านคำนึงถึงความมีวุฒิภาวะหรือยังว่า ได้ถูกนำมาใช้ด้วยหรือไม่
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบข้อมูลชัดเจน แจ่มชัด
ตอบลบและคณะศิษย์ก็มานั่งปฏิบัติธรรมกันกลางแจ้ง ตามอาคารสำคัญ ๆของวัดพระธรรมกาย เช่น วิหารพระมงคลเทพมุนี อาคารร้อยปี โบสถ์เท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้ขัดขวางใครค่ะ
ข้อมูลชัดเจน แจ่มชัด
ตอบลบและคณะศิษย์ก็มานั่งปฏิบัติธรรมกันกลางแจ้ง ตามอาคารสำคัญ ๆของวัดพระธรรมกาย เช่น วิหารพระมงคลเทพมุนี อาคารร้อยปี โบสถ์เท่านั้นเองค่ะ ไม่ได้ขัดขวางใครค่ะ
ท่านยัดความผิดใหัหลวงพ่อท่านรูัหลวงพ่อบริสุทธิัทำเพื่ออะไรคะ
ตอบลบท่านยัดความผิดใหัหลวงพ่อท่านรูัหลวงพ่อบริสุทธิัทำเพื่ออะไรคะ
ตอบลบขอให้คนไทยรัก เข้าใจ ให้ความเป็นธรรม มีมนุษยธรรม กันอย่างทนายท่านนี้ ให้เต็มบ้านเมืองเถิด. เจ้าหน้าที่รัฐยังควรจะมีสิ่วเหล่านี้มากกว่าใครด้วย
ตอบลบขอบคุณที่มีผู้รู้ที่แท้จริง มาให้ความกระจ่าง กับ ศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่มีใจบริสุทธิ์ค่ะ
ตอบลบขอบคุณที่มีผู้รู้ที่แท้จริง มาให้ความกระจ่าง กับ ศิษย์วัดพระธรรมกาย ที่มีใจบริสุทธิ์ค่ะ
ตอบลบขอให้กลุ่ม รึสมาคมทนาย ที่รู้กฏหมาย มาช่วยกันปกป้องการใช้กฏหมายโดยมิชอบด้วยเถิด...ให้เป็นประวัติศาสตร์ชาติสักที...ตอนนี้ อำนาจ กุม กฏหมาย ๆ จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง!!!
ตอบลบขอให้กลุ่ม รึสมาคมทนาย ที่รู้กฏหมาย มาช่วยกันปกป้องการใช้กฏหมายโดยมิชอบด้วยเถิด...ให้เป็นประวัติศาสตร์ชาติสักที...ตอนนี้ อำนาจ กุม กฏหมาย ๆ จึงไม่ศักดิ์สิทธิ์จริง!!!
ตอบลบขอบคุณข้อมูลที่มีประโยชน์สร้างความกระจ่างให้มวลชนค่ะ
ตอบลบความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบเห็นด้วยค่ะ
ตอบลบนี่คือกฎหมาย ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอยู่ที่ผู้มีอำนาจใช้อย่างถูกต้อง. ขอขอบคุณทนายแห่งความยุติธรรมค่ะ
ตอบลบ#นักวิจารณ์นักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลายควรมีความรู้ประกอบสติปัญญาก่อนเม้นท์นะคะ
นี่คือกฎหมาย ความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายอยู่ที่ผู้มีอำนาจใช้อย่างถูกต้อง. ขอขอบคุณทนายแห่งความยุติธรรมค่ะ
ตอบลบ#นักวิจารณ์นักเลงคีย์บอร์ดทั้งหลายควรมีความรู้ประกอบสติปัญญาก่อนเม้นท์นะคะ
จริงด้วย เค้าจะเข้ามาอ่านมาดูกันป่ะหนอ
ลบนักวิจารณ์นักคีย์บอร์ดทั้งหลายนะ
ขอให้บ้านเมืองนี้มีผู้นำที่ปกครองโดยธรรมเทอญ
ตอบลบขอบคุณที่ให้ความกระจ่างค่ะ
ตอบลบรมต ไพบูลย์ ท่านพูดซะน่ากลัว
ทั้งสายตาและพูด ไม่มีความเมตตา
ท่านไม่เป็นมิตรกับประชาชนเลย
แม่นแล้ว....
ตอบลบเข้าใจแล้ว.....
เจ๋ง จริงๆ พี่.....
ทนายคนตรง.....คนเก่งของฉัน
ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี
แม่นแล้ว....
ตอบลบเข้าใจแล้ว.....
เจ๋ง จริงๆ พี่.....
ทนายคนตรง.....คนเก่งของฉัน
ทนายวิญญัติ ชาติมนตรี
พวกใจบาปหยาบช้า รังแกได้แม้แต่ประชาชน พระสงฆ์อาพาธ..เวรกรรมตามสนองโดยเร็วไว..
ตอบลบพวกใจบาปหยาบช้า รังแกได้แม้แต่ประชาชน พระสงฆ์อาพาธ..เวรกรรมตามสนองโดยเร็วไว..
ตอบลบขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยครับ
ตอบลบขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยครับ
ตอบลบต้องอ่าน!!! ขอบคุณมากค่ะ
ตอบลบข้อมูล และเหตุผลชัดเจน ไม่ได้เข้าใจยากเลย
ตอบลบเพียงแต่เขาเหล่านั้น ไม่กล้ายอมรับความเป็นจริง
สิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐทำมาโดยตลอดต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และผิดขั้นตอนของกฎหมายมาตลอด แต่ก็ยังขืนดึงดันที่จะกระทำการทุกอย่างเพื่อเป้าหมายการจับสึกท่านประการเดียว
เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยไม่ยุติธรรม เราก็ต้องต่อสู้เพื่อตัวเองแล้ว
ข้อมูล และเหตุผลชัดเจน ไม่ได้เข้าใจยากเลย
ตอบลบเพียงแต่เขาเหล่านั้น ไม่กล้ายอมรับความเป็นจริง
สิ่งที่เจ้าหน้าที่รัฐทำมาโดยตลอดต่อพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และผิดขั้นตอนของกฎหมายมาตลอด แต่ก็ยังขืนดึงดันที่จะกระทำการทุกอย่างเพื่อเป้าหมายการจับสึกท่านประการเดียว
เมื่อเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจโดยไม่ยุติธรรม เราก็ต้องต่อสู้เพื่อตัวเองแล้ว
บทความนี้ชัดเจนดี จะคลุมเคลือก็แต่ธงที่พวกเขาตั้งไว้ และเขาคงไม่ได้สนความเป็นธรรมอะไร เพื่อไปให้ถึงธงธงนั้น จนกว่าประเทศชาติจะเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ศักด์ศรีของความเป็นคนก็จะยังคงเหลื่อมล้ำในทางปฏิบัติอยู่วันยันค่ำ และผู้ที่ได้อภิสิทธิ์ก็จะยังต่อสู้เพื่อรักษาอำนาจของพวกตัวเอง ประชาชนคือผู้รับกรรม
ตอบลบบทความนี้ชัดเจนมากค่ะ ขอเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ โปรดใช้สติ ตรองดูด้วยนะค่ะ ก่อนจะทำอะไร
ตอบลบบทความนี้ชัดเจนมากค่ะ ขอเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ โปรดใช้สติ ตรองดูด้วยนะค่ะ ก่อนจะทำอะไร
ตอบลบถ้าไม่มีทิฐิ ก็แก้ปัญหาได้ง่ายนิดเดียว เลยขั้นตอนตรงไหนก็ย้อนกลับไปทำตรงนั้นให้มันถูกต้อง แค่นั้นแหละ ทุกอย่างจบ แต่ว่า...?
ตอบลบถ้าไม่มีทิฐิ ก็แก้ปัญหาได้ง่ายนิดเดียว เลยขั้นตอนตรงไหนก็ย้อนกลับไปทำตรงนั้นให้มันถูกต้อง แค่นั้นแหละ ทุกอย่างจบ แต่ว่า...?
ตอบลบชอบค่ะ ที่ออกมาช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบความจริง ถูกต้อง จริงๆเรื่องง่ายๆ แต่ทำไมถึงกลับสร้างความยุ่งเหยิงสร้างความซับซ้อนถึงขนาดนี้
ตอบลบชอบค่ะ ที่ออกมาช่วยกันชี้แจงให้สังคมทราบความจริง ถูกต้อง จริงๆเรื่องง่ายๆ แต่ทำไมถึงกลับสร้างความยุ่งเหยิงสร้างความซับซ้อนถึงขนาดนี้
ตอบลบแจ่มแจ้งครับ
ตอบลบสมเป็นนักกฏหมาย..สุดยอด.
ตอบลบใช้อำนาจเป็นธรรม กรรมหนักจะตามมา ไม่มีใครหลีกหนีกฎแห่งกรรมได้เลย
ตอบลบเป็นข้อมูลที่ดีมากคับละเอียดน่าจะทำให้ผู้ที่ใช้อำนาจที่มีในทางที่มิชอบได้หยุดได้บ้างนะว่าสิ่งที่เขาจะทำกับปปช.สมควรไม๊
ตอบลบขอขอบคุณทนายความที่ให้ความรู้อย่างชัดเจนค่ะ
ตอบลบขอขอบคุณทนายความที่ให้ความรู้อย่างชัดเจนค่ะ
ตอบลบสุดยอดเลยคะ ชัดเจน ตรงไปตรงมา ถ้ามีคนอย่างนี้เยอะๆประเทศไทยคงเจริญกว่านี้อีกหลายล้านเท่า
ตอบลบขอบพระคุณที่ท่านให้ความเห็นที่เป็นธรรมและน่าอบอุ่นใจค่ะ
ตอบลบใช่เลย
ลบอยากให้คุณทนายท่านนี้ตั้งพรรคการเมืองจังครับ รับรองต้องบริหารประเทศไทยได้ดีแน่ๆ
ตอบลบขอบคุณมากๆค่ะที่ได้เอาข้อมูลที่ชัดเจน
ตอบลบมาให้ศึกษากันคนเข้าใจผิดจะได้หูตาสว่างขึ้นค่ะ
จะได้ไม่สร้างกรรมต่อ
จะเรื่องดีหรือร้ายเชื่อแบบมีเหตุมีผลอย่าเขื่อแบบตามเขาบอกมาเลยจะมีกรรมไม่รู้ตัว
ตอบลบ#เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย
ตอบลบเราบ่ผิด ท่านมล้าง ดาบนั้นคืนสนอง
กราบขอบพระคุณท่านทนายด้วยค่ะ
#เราเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของหลวงพ่อธัมมชโย
ตอบลบเราบ่ผิด ท่านมล้าง ดาบนั้นคืนสนอง
กราบขอบพระคุณท่านทนายด้วยค่ะ
ชัดเจนครับสุดยอดทนายเยี่ยมมากครับ
ตอบลบสาธุ
ตอบลบหากผู้มีอำนาจประพฤติอธรรม แว่นแคว้นคือประชาชนก็เดือดร้อน
ตอบลบเหมือนโคจ่าฝูงตัวไม่ฉลาด นำฝูงโคข้ามฝั่งไม่ดี ก็ย่อมประสบความพินาศทั้งฝูงฉะนั้น ฯ
(ถอดความจากธัมมิกสูตร)
ขอให้ท่าน ใช้กฏหมายให้ถูกต้องด้วยเถิด หากยังไม่รู้กฏหมายจริง กลับไปทำความเข้าใจใหม่เถอะ ออกไปจากตำแหน่งให้คนรู้ดีมีศีล มีธรรมมาทำงานดีกว่าค่ะ
ตอบลบสุดยอดมากคะ ท่านทนาย พวกใช้กฏหมายทำเกินหน้าที่
ตอบลบเล่นไม่เลิก กรรมสนองในเร็ววันด้วยนะ
สุดยอดมากคะ ท่านทนาย พวกใช้กฏหมายทำเกินหน้าที่
ตอบลบเล่นไม่เลิก กรรมสนองในเร็ววันด้วยนะ
ชาติของเราชาติไทยใครก็รู้
ตอบลบชาติเคยสู้ผ่านศึกเหตุชั่วร้าย
ชาตินักรบต่อสู้จนชีพวาย
ชาติอยู่ได้แม้ตายก็ยอมพลี
ชาติไทยเราถึงคราวน่าใจหาย
ชาติมิวายสลายแน่ในครานี้
ชาติเคยรบปกป้องเอาชีพพลี
ชาติวันนี้คนดีไม่ปลอดภัย
ชาติเคยอยู่ร่วมกันฉันน้องพี่
ชาติสุขศรีประชาคงสดใส
ชาติจะอยู่คู่โลกคงอีกไกล
ชาติวิไลผองไทยคงเบิกบาน
ชาติวันนี้ผองเราต้องร่วมช่วย
ชาติไม่ม้วยร่วมด้วยช่วยกันสาน
ชาติจะสุขร่มเย็นตลอดกาล
ชาติคือบ้านวิมานสำราญใจ...
ชาติของเราชาติไทยใครก็รู้
ตอบลบชาติเคยสู้ผ่านศึกเหตุชั่วร้าย
ชาตินักรบต่อสู้จนชีพวาย
ชาติอยู่ได้แม้ตายก็ยอมพลี
ชาติไทยเราถึงคราวน่าใจหาย
ชาติมิวายสลายแน่ในครานี้
ชาติเคยรบปกป้องเอาชีพพลี
ชาติวันนี้คนดีไม่ปลอดภัย
ชาติเคยอยู่ร่วมกันฉันน้องพี่
ชาติสุขศรีประชาคงสดใส
ชาติจะอยู่คู่โลกคงอีกไกล
ชาติวิไลผองไทยคงเบิกบาน
ชาติวันนี้ผองเราต้องร่วมช่วย
ชาติไม่ม้วยร่วมด้วยช่วยกันสาน
ชาติจะสุขร่มเย็นตลอดกาล
ชาติคือบ้านวิมานสำราญใจ...
ขอบคุณท่านทนายมาก ๆ ค่ะ
ตอบลบ
ตอบลบCopter Maxnus
ข้อแท้จริงคือ รับบริจาคด้วยความบริสุทธิสารแต่ถูกกลั่นแกล้ง ใส่ร้ายว่ารับของโจร และฟอกเงิน ทั้งๆที่ เงินที่บริจาคก็ได้ไปสร้างศาสนะสถานหมดแล้ว
เพราะมันมีอะไรที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังใช่มั๊ย!
ตอบลบเพราะมันมีอะไรที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังใช่มั๊ย!
ตอบลบทนเห็นพระถูกรังแกไม่ได้จริงๆแต่เราไม่สู้ด้วยกำลังหรอก เราจะเอาความจริงและความดีนี่แหละ ทำให้เค้าเห็น
ตอบลบขอบคุณค่ะที่ให้ความรู้ ข้อมูลที่ถูกต้องตรงประเด็น ไม่ใช่มั่วซั่วใช้กฎหมายแบบจับแพะขนแกะ นึกว่าไม่มีใครรู้ สาธุ ค่ะ
ตอบลบหยุดสร้างเวร สร้างกรรมซะที เรื่องมันควรจะจบไปตั้งนานแล้ว ข้อมูลความผิดไม่มีเลย หลวงพ่อ ท่านบริสุทธิ์ย่อมรู้อยู่
ตอบลบคุณทนาย ชี้แจงชัดเจน หยุดกลั่นแกล้ง หยุดใส่ร้ายหลวงพ่อได้แล้ว...มันบาปหนายิ่งนัก
เป็นข้อมูลที่ชัดเจน ขอบคุณท่านทนายความมากครับ
ตอบลบใช่เลยค่ะ พยายามสร้างกระแสสังคมเพื่อทำร้ายผู้อื่นให้ได้ เท่านั้นเอง
ตอบลบวัดและพระมีแต่ความบริสุทธิ์ ผู้มีบุญ มีปัญญา และบัณฑิต ก็มองออกว่า นี่เป็นเกมส์ทำลายพระพุทธศาสนา ใครออกมาช่วย จะได้บุญกุศลใหญ่เอย.
ตอบลบผู้ที่มีวิจารณญาณและเป็นคนมีเหตุผล จะเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
ตอบลบผู้ที่มีวิจารณญาณและเป็นคนมีเหตุผล จะเห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
ตอบลบเห็นด้วยค่ะ
ตอบลบหยาบ ๆ แค่หนีหมายจับก็ผิดแล้ว
ตอบลบเรื่องทางธรรมไม่ต้องพูดถึง
แถกันได้ทุกวัน
ยุคถิ่นกาขาว คนพาลใจบาป ได้ครองเมือง
ตอบลบ