สะเทือนใจ!!! ชาวไทยทั้งชาติ ฤาประวัติศาสตร์จะย้อนคืน
เรื่องจริง! ของวงการสงฆ์ ที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้!
เมื่อพระดีถูกรังแกข่มเหง จากกลุ่มผู้แสวงหาอำนาจจึงนำไปสู่การตัดสินที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
-ใน พ.ศ. 2503 เมื่อครั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) ดำรงสมณศักดิ์เป็นพระพิมลธรรมนั้น (ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังราชและเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุฯ)
ท่านได้ถูกกล่าวหาว่าอาบัติปาราชิกข้อหาเสพเมถุนกับลูกศิษย์ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตฺติโสภโณ) จึงมีพระบัญชาให้พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส
แต่ท่านปฏิเสธ โดยตั้งใจจะต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน คณะสังฆมนตรีของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (จวน อุฏฺฐายี) จึงมีมติว่าท่านฝ่าฝืนพระบัญชาไม่ควรอยู่ในสมณศักดิ์ต่อไป...
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงโปรดให้ถอดออกจากสมณศักดิ์ตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2503 ภายหลังเรื่องถึงชั้นศาลและสามารถพิสูจน์ได้ว่า ข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่มีมูลความจริง
-ต่อมาใน พ.ศ. 2505 ท่านได้ถูกทางการกล่าวหาว่าเป็นคอมมิวนิสต์ จึงถูกบังคับสึกเป็นฆราวาสแม้ท่านจะร้องขอความเป็นธรรม และขอโอกาสต่อสู้คดีก็ไม่เป็นผล และถูกจำคุกอยู่ที่กองบังคับการตำรวจสันติบาลอยู่ 5 ปี
(ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในคุกแม้จะถูกถอดจีวรแล้วสวมชุดฆราวาส ท่านก็ยังคงดำเนินวัติปฏิบัติแบบพระโดยสมณสัญญาตามปกติ)
จนกระทั่งศาลทหารสามารถพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นความเท็จและตัดสินยกฟ้องเมื่อ พ.ศ. 2509
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงโปรดให้ท่าน กลับสู่สมณศักดิ์เดิมตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 คดีดังกล่าวนี้นับเป็นเหตุการณ์ สำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์พุทธศาสนาของไทย
ซึ่งสร้างความสะเทือนใจให้แก่ศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนในประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง
"เราคงไม่อยากให้เหตุการณ์
แบบนี้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ"
เมื่อพระดีถูกรังแกข่มเหง จากกลุ่มผู้แสวงหาอำนาจจึงนำไปสู่การตัดสินที่ผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่
แบบนี้เกิดขึ้นอีกในประเทศไทย ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองพุทธ"
เรื่องจริง! ของวงการสงฆ์ ที่คนรุ่นใหม่ไม่เคยรู้! คนรุ่นปู่ย่า ไม่อาจลืม! เพราะ.. ถึงตายก็พูดไม่ได้! https://goo.gl/RnnIH9
สะเทือนใจ!!! ชาวไทยทั้งชาติ ฤาประวัติศาสตร์จะย้อนคืน
Reviewed by Unknown
on
05:05
Rating:
ไม่มีความคิดเห็น: